คลินิกความงามชั้นนำ ด้านฟิลเลอร์รอบดวงตาโดยจักษุแพทย์ และศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย “ ให้คุณได้เป็นตัวเองในแบบที่สวยที่สุด ”
Ulthera คือ เทคโนโลยีในการปรับรูปหน้า ผ่านส่งผ่านคลื่นเสียงความถี่สูง ลงไปถึงเนื้อเยื่อชั้น SMAS (Superfical Muscular Aponeurotic System) เป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า มีการปล่อยคลื่นออกมาเป็น จุดเล็ก ๆ สม่ำเสมอกัน (Micro-Fucus)
ในจุดที่เราต้องการให้เกิดการยกกระชับ โดยคลื่นเสียงชนิดนี้จะลงไปเป็นจุดเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอ และ ทิ้งระยะห่างระหว่างจุดประมาณ 1 – 1.5 มิลลิเมตร
โดยพลังงานความถี่ของคลื่นเสียงจาก Ulthera จะลงไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังหลายชั้น ไม่มีการบาดเจ็บบริเวณผิวหนังด้านบน โดยอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 60 องศาเซลเซียส ได้รับการวิจัยมาแล้วว่าเป็นอุณหภูมิที่เหมาะกับสม สำหรับการกระตุ้นเพื่อสร้างคอลลาเจน
นอกจากนี้ การทำอัลเทอร่า ยังช่วยลดไขมัน ลดรูขุมขนด้วย โดยบางท่าน จะมีความรู้สึกว่าหน้าดูใสขึ้น (ผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล) ในระหว่างการทำแพทย์สามารถประเมิน และ ควบคุมการทำให้จากหน้าจอทันที ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพ และ มีความปลอดภัยสูง
หากมีการเริ่มรักษาตั้งแต่อายุ 25 และ มีการทำ Ulthera ซ้ำทุก 1 ปีครึ่ง หรือ 2 ปี เมื่ออายุเยอะขึ้น อาทิเช่น ตอนอายุ 30 หากมีการหย่อนคล้อยเกิดขึ้น ผิวจะหย่อนคล้อยไม่เยอะ
เรียกว่า เป็นการคงสภาพผิวเอาไว้ให้นานที่สุด เป็นการ Maintenance หากมีการยกกระชับตั้งแต่ช่วงเริ่มหย่อนคล้อย หรือ กระตุ้นผิวช่วงที่คอลลาเจนผลิตน้อยลง ผิวก็จะมีความหย่อนคล้อยน้อย คงสภาวะเดิมได้นานที่สุดครับ
อย่างแรกต้องให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการออกแบบรูปหน้าประเมินปัญหาบนใบหน้าก่อนครับ ว่าหน้าเรามีความหย่อนคล้อย ต้องปรับแก้ไขตรงไหนบ้าง รวมถึงประเมินสภาพผิวด้วย
เพราะผิวแต่ละคนก็มีความเซฟซิทีฟแตกต่างกันไป บางคนมีผิวแพ้ง่าย บวมง่าย ก็ต้องระวังเรื่องจำนวนช็อต และ บริเวณที่ยกกระชับอีกทีครับ ต้องประเมินเป็นรายบุคคล
ยกกระชับรอบดวงตา 100 ช็อต+
ยกกระชับทั่วใบหน้า 300 ช็อต+
ยกกระชับทั่วใบหน้า และ ยกกระชับลำคอ 600 ช็อต+
การทำ Ulthera สามารถยิงหลายช็อตได้ในครั้งเดียวครับ แต่กรณีที่คนไข้บางท่านเลือกทำที่ 600 ช็อต แต่หมอพิจารณาแล้วว่า ผิวบาง และ มีความเซฟซิทีฟมาก ๆ หมออาจจะแบ่งทำทีละครึ่งให้แทนครับ เพื่อป้องกันผิวจากกการบวมแดง อักเสบ และ ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุดหลังทำ
ราคาตามท้องตลาดทั่วไป สำหรับเครื่องแท้ จะอยู่ที่ช็อตละ 1xx บาทครับ ซึ่งขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ด้วย ควรเลือกยกกระชับใบหน้ากับแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทางด้านผิวหนัง
และ มีประสบการณ์ในการใช้เครื่องเป็นระยะเวลานาน เชี่ยวชาญในการออกแบบใบหน้า เข้าใจปัญหาผิว ความหย่อนคล้อย ประเมินได้ตรง จะช่วยให้คนไข้ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงความต้องการมากที่สุดครับ
เครื่องอัลเทอร่าจะมีความอุ่นจากการปล่อยพลังงานลงสู่ผิว ในขณะทำอัลเทอร่า บางท่านรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย บางรายอาจรู้สึกเหมือนมีเข็มเล็ก ๆ จิ้มลงบนหน้า ซึ่งเป็นความเจ็บที่สามารถทนได้ โดยผลลัพธ์จะมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคลครับ
อันดับแรกมาทำความรู้จักกับ ไฮฟู (HIFU) หรือ High Intensity Focus Ultrasound เป็นการใช้คลื่นเสียง Ultrasound ให้เกิดความร้อนเหมือนตัวเครื่อง Ulthera เพื่อเข้าไปกระตุ้นเนื้อเยื่อในผิวหนังระดับลึกชั้น SMAS
เป็นการกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ และ คอลลาเจนขึ้นมาใหม่เหมือนกันครับ จะแตกต่างกันตรงที่ขนาดของจุดที่เครื่อง Focus รวมถึงความเสถียรของเครื่องเมื่อเทียบกับ Ulthera จะส่งพลังงานได้ดีกว่าตัว ไฮฟู (HIFU) ครับ
โดยตัว ไฮฟู (HIFU) จะเหมาะกับคนที่มีริ้วรอยน้อย ไปถึงปานกลาง โดยเห็นผลได้ทันทีหลังทำ และจะค่อย ๆ กระชับอย่างต่อเนื่องประมาณ 3-4 สัปดาห์ อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนเป็นต้นไปครับ
ถ้าถามถึงความแตกต่างที่แท้จริง Ulthera จะมีพลังงานสูงกว่า และ แม่นยำกว่าตัว HIFU มากครับ ถ้าให้เทียบผลลัพธ์ สามารถบอกได้ว่า การทำ Ulthera 1 ครั้ง สามารถเทียบได้กับการทำ HIFU ถึง 2-3 ครั้ง โดยที่การทำครั้งเดียวนั้นเห็นผลลัพธ์ได้ดีกว่าการทำ 2-3 ครั้งด้วยครับ
ถ้าต้องเลือกยกกระชับใบหน้าทั้งที แนะนำเป็นการทำ Ulthera ดีกว่าทำ HIFU มากครับ หากเทียบถึงความคุ้มค่าที่จะได้รับ ความแน่นฟูของผิวที่มีมากขึ้น หรือ การไม่ต้องเสียเวลามาทำบ่อย ๆ
เทอร์มาจ (Thermage) คือ นวัตกรรมการยกกระชับผิวหน้าด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) ส่งพลังงานความร้อนเป็น Column ลงในชั้นผิวทั้งสามชั้น ได้แก่ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis), ชั้นหนังแท้ (Dermis) และ ชั้นไขมัน (Subcutaneous Fat) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ อิลาสติน ที่จะส่งผลให้ผิวหน้าแน่นขึ้น ไขมันบนใบหน้าบางลง กรอบหน้าชัดขึ้น
โดยจะเหมาะกับท่านที่มีไขมันหนา ตัว เทอร์มาจ (Thermage) และ อัลเทอร่า (Ulthera) จะมีความแตกต่างกันตรงที่หน้าจออัลเทอร่า (Ulthera) จะมีความแม่นยำ เพราะเห็นเฉพาะจุดต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน เหมาะกับการยกกระชับใบหน้า ยกคิ้ว หางตา และ ดวงตา ส่วน เทอร์มาจ (Thermage) จะดีสำหรับสำหรับการ ลดไขมัน ลดเหนียง ครับ
ตามจริงหลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) เสร็จไม่จำเป็นต้องพักหน้า สามารถทาครีมบำรุงได้ตามปกติ ซึ่งอาการบวมไม่พบกับทุกคนครับ จะเกิดขึ้นกับแค่บางคนเท่านั้นครับ คือคนอื่นจะดูไม่ออกว่าเราหน้าบวม แต่ตัวเราเองจะมีความรู้สึกถึงความบวมบนใบหน้า อารมณ์เหมือนตอนผ่าฟันคุดครับ
ซึ่งอาการบวมจะหายไปประมาณ 2-3 วันหลังทำ และคนไข้อาจจะมีความรู้สึกว่าผิวแห้ง จึงแนะนำให้งดการผลัพเซลล์ผิว หรือ งดทาครีมกลุ่มที่ทำให้ผิวขาว 1 สัปดาห์ครับ สำหรับท่านที่มีอาการปวดมาก ระบมใต้ผิวเวลาจับ สามารถทานยาพาราเซตามอลระงับความปวดได้ครับ
ถ้าถามว่าตัวเครื่อง Ulthera อันตรายไหม ต้องบอกว่า หากใช้เครื่องอัลเทอร่าแท้ จากบริษัท Merz Aesthetics Thailand ท่านสามารถมั่นใจถึงความปลอดภัยได้เลยครับ ว่าเครื่องที่ใช้เห็นผล ปลอดภัยกับการร่างกาย สามารถใช้งานได้จริง
โดยสามารถตรวจสอบจากการที่ภายในคลินิก จะมีประกาศนียบัตร และ คริสตัลรูปเพชร เพื่อเป็นการยืนยันว่าคลินิกนั้น ๆ ใช้เครื่อง อัลเทอร่า (Ulthera) แท้ หรือสังเกตจาก สติกเกอร์หน้าเครื่อง ที่มีคำว่า Ultherapy Certified ครับ
หากคนไข้สนใจ และ ต้องการทำอัลเทอร่าจริง ๆ สิ่งแรกที่ควรทำ คือ ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องมือยกกระชับให้ดีก่อน ว่าวิธีการนี้เหมาะกับตัวเราหรือไม่ เครื่องทำงานอย่างไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง การเตรียมตัวก่อนทำ และ การดูแลตัวหลังทำ ควรศึกษาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจครับ
สิ่งที่ควรระวังหลัก ๆ จะเป็นในเรื่องของการใช้เครื่องปลอมครับ ซึ่งเครื่องปลอมมีออกมามาก มีความไม่เสถียรเหมือนเครื่องแท้ ทำแล้วเหมือนเสียเงินฟรีครับ ไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง และอาจะมีส่วนในการทำลายเซลล์ผิวเราอีกด้วย หากตัดสินใจเลือกทำ อัลเทอร่า (Ulthera) ทั้งที แนะนำทำกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ
แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางการออกแบบใบหน้า ด้านความงาม จะทำให้มีการวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม ลงพลังงานได้ถูกชั้นในการรักษา ประเมินจำนวนไลน์เพื่อยิงอัลเทอร่า (Ulthera) ได้แม่นยำ ทำให้แก้ปัญหาได้ตรงจุด รวมถึงทำให้การยกกระชับอยู่ได้นานด้วยครับ
First Clinic ฟิลเลอร์รอบดวงตา โดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
Copyright © 2024 First Clinic. All Rights Reserved.